กรณีห้างแจกบัตรจอดรถ
หากรถยนต์ถูกขโมยทั้งที่บัตรจอดรถยังเก็บไว้กับตัว ห้างต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นเนื่องจากความประมาทเลินเล่อของพนักงานผู้ดูแลลานจอดรถที่ปล่อยให้รถยนต์ที่ถูกขโมยผ่านออกไปได้
ศาลฎีกาให้ความเห็นว่าเงื่อนไขว่า “บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหายหรือเสียหายต่อรถใด ๆ ทั้งสิ้น” ที่ระบุไว้บนบัตรนั้นเป็นเงื่อนไขที่กำหนดขึ้นฝ่ายเดียวเพื่อให้ตนเองไม่ต้องรับผิด จึงไม่มีผลเป็นการยกเว้นความรับผิดได้ (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 374/2551)
แต่ถ้ากรณีกลายเป็นว่ารถหายและบัตรจอดรถก ็ไม่อยู่กับตัวด้วย กรณีเช่นนี้ศาลฎีกามองว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของตัวลูกค้าเอง ดังนั้นห้างจึงไม่ต้องรับผิดชอบ (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1936/2549)
กรณีห้างไม่ได้แจกบัตรจอดรถ
เมื่อปี พ.ศ. 2556 ศาลฎีกาได้ตัดสินคดีที่เรียกร้องให้ห้างสรรพสินค้ารับผิดชอบต่อรถยนต์ของลูกค้าที่สูญหายในลานจอดรถทั้งที่ห้างสรรพสินค้าได้ยกเลิกระบบการแจกบัตรจอดรถให้ลูกค้าไปแล้ว ปรากฏในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7471/2556
ในคดีนี้ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่าห้างสรรพสินค้าต้องให้ความสำคัญด้านบริการต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้บริการสถานที่จอดรถถือเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเข้ามาใช้บริการของลูกค้า เพราะถ้ามีสถานที่จอดรถกว้างขวางเพียงพอและสะดวกสบายก็ย่อมดึงดูดลูกค้าให้เข้าไปซื้อสินค้าหรือใช้บริการ ดังนั้นห้างสรรพสินค้าจึงมีหน้าที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งในชีวิตและทรัพย์สินของลูกค้าด้วย
เมื่อก่อนเกิดเหตุ ห้างสรรพสินค้าเคยใช้วิธีการแจกบัตรจอดรถซึ่งเป็นวิธีที่ตรวจสอบการเข้าออกได้รัดกุมกว่า แต่กลับยกเลิกวิธีการดังกล่าวแล้วใช้ระบบกล้องวงจรปิดแทน จึงย่อมเป็นเหตุให้คนร้ายสามารถทำการโจรกรรมและนำรถยนต์ออกได้ง่ายยิ่งขึ้น เมื่อคดีนี้รถยนต์สูญหายจากลานจอดรถจึงถือได้ว่าเกิดจากความประมาทเลินเล่อของห้างสรรพสินค้า และการที่ห้างสรรพสินค้าปิดประกาศว่าจะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหายหรือเสียหายใดๆ ก็เป็นเรื่องข้อกำหนดของห้างสรรพสินค้าเพียงฝ่ายเดียวจึงใช้อ้างเพื่อ ยกเว้นความรับผิดของตนเองไม่ได้
ศาลฎีกาในคดีนี้จึงตัดสินให้ห้างสรรพสินค้ารับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายจากกรณีรถยนต์สูญหายดังกล่าว